Home » ยาลดไข้คืออะไร? ใช้อย่างไร รู้ครอบคลุมเกี่ยวกับยาลดไข้

ยาลดไข้คืออะไร? ใช้อย่างไร รู้ครอบคลุมเกี่ยวกับยาลดไข้

by Andrea Palmer
18 views
ยาลดไข้

ยาลดไข้เป็นสารที่ลดไข้โดยการลดอุณหภูมิของร่างกายจากสภาวะที่สูงขึ้น มักใช้รักษาอาการไข้เนื่องจากการติดเชื้อ การอักเสบ หรืออาการทางการแพทย์อื่นๆ

ยาลดไข้ทำงานอย่างไร?

ยาลดไข้ออกฤทธิ์โดยส่งผลต่อไฮโปทาลามัส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสมองที่ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย พวกมันกระตุ้นให้ไฮโปทาลามัสเปลี่ยนอุณหภูมิของร่างกายที่สูงขึ้น และปรับอุณหภูมิกลับสู่ระดับปกติ ยาเหล่านี้ยังสามารถช่วยลดอาการปวดและการอักเสบซึ่งมักเกี่ยวข้องกับไข้ได้

Paracetamol (Acetaminophen)

พาราเซตามอลหรือที่รู้จักในชื่ออะเซตามิโนเฟนในสหรัฐอเมริกา เป็นยาลดไข้และยาแก้ปวดที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย มีประสิทธิผลในการลดไข้และบรรเทาอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และปวดฟัน พาราเซตามอลไม่ได้ลดการอักเสบ จึงทำให้ค่อนข้างปลอดภัยเมื่อเทียบกับยาแบบอื่น ๆ โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยกว่าสำหรับผู้ที่มีประวัติเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร และมักแนะนำสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์ 

Ibuprofen

ไอบูโพรเฟนเป็นยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) ที่ใช้กันทั่วไปเพื่อลดไข้ บรรเทาอาการปวด และต่อสู้กับอาการอักเสบ ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งเอนไซม์ที่ทำให้เกิดการอักเสบและความเจ็บปวดในร่างกาย ไอบูโพรเฟนมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการต่างๆ เช่น ปวดประจำเดือน โรคข้ออักเสบ และอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่มีอายุเกิน 6 เดือน ควรใช้ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น ปวดท้อง และเสี่ยงต่อการตกเลือด

Aspirin

แอสไพรินซึ่งเป็น NSAID อีกชนิดหนึ่ง มีประสิทธิภาพในการลดไข้และบรรเทาอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ทำให้เป็นประโยชน์ต่อสภาวะต่างๆ เช่น โรคข้ออักเสบ แอสไพรินมีผลทำให้เลือดบางลง และบางครั้งอาจใช้ในปริมาณที่น้อยเพื่อป้องกันภาวะหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำสำหรับเด็กและวัยรุ่น เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อโรค Reye ซึ่งเป็นภาวะที่พบไม่บ่อยแต่ร้ายแรง

Naproxen 

เป็น NSAIDs คล้ายกับ ibuprofen แต่มีระยะเวลาการออกฤทธิ์นานกว่า ทำให้เหมาะสำหรับสภาวะที่ต้องการการบรรเทาอาการปวดเป็นเวลานาน มีประสิทธิผลในการลดไข้ ความเจ็บปวด และการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับสภาวะต่างๆ เช่น โรคเกาต์ โรคเบอร์ซาอักเสบ และโรคกระดูกสันหลังอักเสบยึดติด โดยทั่วไปแล้ว Naproxen รับประทานน้อยกว่าไอบูโพรเฟน แต่มีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงทางเดินอาหารใกล้เคียงกัน

Diclofenac 

Diclofenac เป็น NSAID อีกประเภทหนึ่งที่ใช้สำหรับคุณสมบัติลดไข้ แก้ปวด และต้านการอักเสบ มักสั่งจ่ายยาสำหรับอาการต่างๆ เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และไมเกรน แต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากอาจมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและระบบทางเดินอาหาร

Indomethacin 

อินโดเมธาซินเป็น NSAIDs ที่แรงกว่า มักใช้รักษาอาการปวดและการอักเสบปานกลางถึงรุนแรง เช่น โรคข้ออักเสบ โรคเกาต์ และเอ็นอักเสบ แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพ แต่ก็เป็นที่ทราบกันว่ามีผลข้างเคียงที่เด่นชัดมากกว่าเมื่อเทียบกับ NSAIDs อื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของอาการไม่สบายทางเดินอาหารและอาจส่งผลต่อไต

Ketoprofen 

คีโตโพรเฟนเป็น NSAID ที่ใช้ลดไข้ ปวด และอักเสบ มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการรักษาภาวะทางระบบกล้ามเนื้อและกระดูก เช่น โรคข้ออักเสบ แม้ว่าไอบูโพรเฟนและนาพรอกเซนจะมีประโยชน์คล้ายคลึงกัน แต่การใช้ไอบูโพรเฟนอาจถูกจำกัดด้วยผลข้างเคียง ซึ่งรวมถึงอาการไม่สบายทางเดินอาหาร และความไวต่อแสงแดดที่เพิ่มขึ้นของร่างกาย

Mefenamic Acid 

กรดเมเฟนามิกเป็น NSAID ที่ใช้โดยเฉพาะสำหรับการรักษาอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลางในระยะสั้น รวมถึงอาการปวดประจำเดือน มีฤทธิ์ในการลดไข้และการอักเสบ แต่โดยปกติแล้วจะสั่งจ่ายในระยะเวลาที่จำกัดเท่านั้น เนื่องจากมีผลข้างเคียง ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงต่อระบบทางเดินอาหาร

สรุป

ยาลดไข้มีความสำคัญในการจัดการอาการไข้และอาการไม่สบายที่เกี่ยวข้อง การทำความเข้าใจประเภท ประโยชน์ และการใช้อย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการอาการอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าโดยทั่วไปยาเหล่านี้จะปลอดภัยเมื่อใช้ตามคำแนะนำ แต่สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนใช้ยาลดไข้ โดยเฉพาะกับเด็ก ผู้สูงอายุ หรือบุคคลที่มีโรคประจำตัว

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

logo-studiozero

เว็บไซต์ข่าวสารเพื่อความปลอดภัยในการทำงานที่คุณสามารถอ่านความรู้ได้ฟรี! และอัปเดทข้อมูลใหม่ๆทุกวัน

เรื่องน่าสนใจ

ติดต่อเรา

@2023 – All Right Reserved. Designed and Developed by Studiozero